จาก เหมย ถึง กาสะลอง จาก โกวเล้ง ถึง ยิ่งลักษณ์

ท่านที่เคารพรักครับ มีคำพูดหนึ่งที่กล่าวเอาไว้ว่า

ทะเลสวย ต้องมีคลื่น ชีวิตใช่จะราบรื่นเสมอไป  ต้องมีอุปสรรคบ้าง  

หิมะยิ่งหนัก  ดอกเหมยก็ยิ่งงดงาม

คำพูดนี้ทำให้ผมมองดอกกาสะลองที่หลิวถือมาวางอย่างสนใจ
เพราะดอกกาสะลองเบื้องหน้า ที่บานเฉพาะในยามวสันตฤดู  หน้าฝนและต้นหนาว ราวกับจะเป็นสักขีพยานว่า คำกล่าวข้างต้นนี้เป็นความจริง

" ดอกปีบค่ะเล้ง " หลิววางดอกไม้สวยอย่างพิสุทธิ์เป็นช่อสีขาวไว้ข้างๆเครื่องพิมพ์ดีดของผม แล้วเดินจากไป
แต่ผมนิ่งราวต้องมนต์สะกด กาสะลองหรือดอกปีบช่อนั้น งามเหลือเกิน จนผมละสายตาจากไม่ได้  
นิ่งไปชั่วขณะนั่นแหละ ผมจึงเริ่มพิมพ์ข้อความงานเขียนของผมต่อว่า

......เริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่หนอ ที่ระหว่างคนต่อคน ไม่มีความเชื่อถือต่อกัน

มิตรภาพอันบริสุทธิ์ใจ กลายเป็นโบราณวัตถุอันล้ำค่า ที่หายากมากขึ้นทุกวัน ความเดียดฉันท์คือการรินน้ำให้ต่อหน้า
แต่ไม่อนุญาตให้ดื่มแก้กระหายอย่างนั้นหรือ?

ค่าแห่งความเป็นคน โดนเอาไปต่อรองด้วยปมเงื่อนเวลา ปานราคาสินค้า  ที่ชั่งตวงกันว่า มากไป น้อยไป ต้องจำกัดปริมาณ อย่างนั้นหรือ?

คำตอบนั้นล่องลอยในสายลม  เพื่อนเอย

หากพูดตามสำนวนกำลังภายในของท่านโกวเล้ง  ก็ต้องพูดว่า  ต่างคนต่าง ซ่อนมีดในรอยยิ้ม  
ต่างคนต่างมีมีดประจำตัวซ่อนไว้ อยู่ที่ใครจะใช้มีดได้ไวกว่ากัน  เร็วกว่ากัน  
และใครไม่พลาดเป้ากว่ากัน  ในแต่ละปัจเจกชน และในองค์กร น้ำใจไมตรี มันแห้งเหือด ไปนานแล้ว

ความจริงท่านโกวเล้งไม่เคยกล่าวเอาไว้เลยว่า  ความรักมีอยู่ทุกหนแห่ง แฝงไว้กับทุกชีวิต
เมื่อใดที่ความรักก่อเกิด เมื่อนั้น " พลังรัก " ก็จะเป็นพลังงานคอยแผดเผาผลาญเป็นเชื้อเพลิงชั้นดี ให้ชีวิตก้าวต่อไปตามวิถีที่ควรจะเป็น  
เฉกเช่นวิถีคนกล้า

และตรงกันข้าม ยามที่เมื่อใดรักหมด  พลังงานก็ถดถอย  เป็นไฟเผาใจให้ร้อนรุ่ม อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
อยู่กันไปด้วยความหวาดระแวง ใช้ชีวิตไปตามวิถีคนกลัว

ในสังคมเต็มไปด้วยคนที่เรา " รู้จัก "  แต่น้อยคนนักที่เรา รักและคิดถึง......

โลกนี้เป็นโลกแห่งความเป็นคู่  เมื่อมีรัก เกลียดก็ก่อเกิด  เมื่อมีความสวยงาม อัปลักษณ์ก็ตามมา
เมื่อมีความดีงาม ความชั่วร้ายเลวทราม ก็ประกบติดเป็นเงา เป็นมารผจญ

สรรพสิ่งต่างถ่วงดุลกัน มนุษย์ล้วนเพ่งหาสัจจะของ " ความรัก " และตีความค้นหาความหมายไปต่างๆนานา
พยายามตรองให้รู้ซึ้งถึงคำว่า รัก    

รักนั้นจักต้องเร่ง จักต้องผ่อน จักต้องร้อน  บางครั้งรักจักต้องเย็น จักต้องเล่น  และจักต้องจริงใจ  จริงจัง

คำว่า รักคืออะไร  ยังเป็นปริศนาให้ตีความและค้นหา เพื่อจะเข้าถึงประดุจ ปริศนาทางธรรม ทั้งๆที่เป็นทางโลก
หากไปถามสายัณห์ สายัณห์คงบอกว่า   ความรักคือยาขม ความรักเหมือนยาขม

สำหรับ สาว สาว สาว กลับบอกว่า    รักไม่ใช่ดวงดาวที่พราวแสง  ใช่ร้อนแรง ดั่งแสงอาทิตย์ส่อง
รักไม่ใช่ภูผาสุดจับจอง ใยใครมอง หารักกันทำไม

รักคือดวงจันทร์ รักคือตะวัน รักคือไฟอัน   ร้อนแรง ไร้จุดหมาย.....

ส่วนบูโดกันย้ำถึงคำว่า รัก ด้วยการบอกว่า  ....ไม่ต้องรักเท่าฟ้า แต่ขอให้รักเท่าเดิม ไม่ต้องมีเพิ่มเติม แต่รักไม่น้อยลงไป
ไม่ต้องรักจนชั่วนิรันดร์ ตราบที่ฉันนั้นยังหายใจ ขอให้เหมือนเดิม ขอให้เหมือนเดิม....

อ้อน เกวลิน ก็เผยด้วยความรู้สึกว่า ....จากกันจึงรู้ความจริง  ไม่มีแล้วใคร ที่จะรักฉันและจริงใจ เท่ากับเธอ คงไม่มี
กลับมาเพื่อทวงคำสัญญา จากคนๆหนึ่งซึ่งเคยรักกัน  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมากับฉัน เธอไม่มีวันทอดทิ้งให้ฉัน เดียวดาย
อยากให้เธอรู้ว่าฉันคิดถึงเธอที่สุด อยากให้เธอรู้ว่าฉันยังรักเธอที่สุด    รักเธอไม่มีวันหยุด.....

สำหรับกับ อ้อย กระท้อน เธออธิบายอย่างลึกซึ้ง จนใครที่ได้รับฟัง ต้องสะท้อนใจอย่างหดหู่  เมื่อเธอเอ่ยถามอย่างสลดใจ
แฝงความเศร้าสร้อยใจที่ว่า

  ...ถามว่ารักแค่ไหน นับเม็ดทรายทั้งทะเลก็รู้...ลมหายใจที่มีอยู่ คือความคิดถึงจากฉัน  

...ถามจะเจ็บแค่ไหน หากเธอไปรักใครสักคน ก็ลองนับดูสายฝนนั่น...นั่นคือน้ำตาจากใจ...


อานุภาพของความรักนั้นมีพลังอย่างมาก เป็นแรงผลักดันมหาศาล  มนุษย์ดิ้นรนและไขว้คว้าหาความรัก
เมื่อพบรัก ก็ต้องการพิสูจน์ว่า รักนั้นแท้หรือไม่  ?

ในเรื่อง " ข้างหลังภาพ " นั้น ประโยคตอนจบที่หม่อมราชวงศ์กีรติฝากถึงนพพร ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่า
ชายที่หล่อนหลงรักโดยเสน่หาเเละเคยทอดสะพานรับรักนั้น กระท่ั่งวันสิ้นลมหายใจหล่อนก็ไม่สามารถเป็นผู้ปลดล๊อก
โซ่ตรวนที่พันธนาการรักหล่อนไว้ด้วยตนเองได้อย่างเเท้จริง

“ฉันตายโดยปราศจากคนที่รักฉัน แต่ฉันก็อิ่มใจว่าฉันมีคนที่ฉันรัก” .

มนุษย์เล่นกับความรู้สึกของตนเองและผู้อื่นมากเกินไป  จนลืมนึกถึงไปว่า  ด้านแห่งความเจ็บช้ำ ปวดร้าว ผิดหวัง ของความรัก
ก็มีอานุภาพที่รุนแรง ไม่แพ้ด้านที่สมหวัง  

และความรู้สึกอีกอย่างของความรัก  ซึ่งนอกจากความผิดหวัง ความไม่สมหวังในความรักแล้ว   ยังมีความเสียใจอย่างมาก อีกอย่างหนึ่งคือ  

คนที่เรารัก โดนรังแก   หรือคนที่เรารัก ไม่ได้รับความยุติธรรม  ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก  ซ้ำซาก


คนที่เรารัก โดนรังแก โดยที่เราไปแต่ยืนมองทำตาปริบๆ  และไม่กล้ามีปาก มีเสียง  
ซึ่งความสะทกสะท้อนใจ เหมือนมีก้อนอะไรมาจุกที่ลำคอ มันเต็มตื้นไปหมด เมื่อคิดว่า  

จากนี้ไป  จะไม่มีทางย้อนคืนวันเก่าๆ กลับมาเหมือนเดิมได้อีกแล้ว
แต่เราก็ยังคงรักเหมือนเดิม  ไม่ว่าเธอคนนั้น จะตกต่ำจากการโดนกลั่นแกล้งเพียงใด

ท่านที่เคารพรักครับ   คนบางคน  ผ่านมา แล้วก็ผ่านไป
คนบางคน ผ่านมา เมื่อจากไป ก็ทิ้งรอยจางๆไว้ให้คิดถึง

แต่คนบางคน ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา  แล้วฝากความประทับใจ  ความฝังใจ ไว้ในหัวใจเรา  อย่างไม่รู้ลืม ไปตลอดชีวิต  


ท่านที่เคารพรักครับ  ช่วงแห่งชีวิตหนึ่งของคนเรา  เราอาจจะพบคนที่คล้ายเทือก   คล้ายชวน คล้ายมาร์ค คล้ายเทพไท
  คล้ายติ่ง   คล้ายศิริโชคอีกกี่คนก็เป็นได้

แต่ในช่วงชีวิตหนึ่งของคนเรา    เราจะพบพานคนชื่อ ยิ่งลักษณ์  ได้สักกี่คนกันครับ  

หรือสุดท้าย   พบพานแล้วก็ต้อง พรากจาก  เราจะต้องสูญเสียเธอไปอีกคน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่